ประวัติเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ยโดยสังเขป

เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี้ย) สามารถจัดแบ่งได้ดังนี้

  1. ปางมหาเศรษฐี ชัมภล(ธนบดีชัมภล) ซึ่งเป็นปางที่ใหญ่ที่สุด และเก่าแก่ที่สุดกว่า 1,200 ปี (กำเนิดจากพระพุทธศาสนามหายาน) เชื่อกันว่าผู้ที่่ได้บูชาเทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี้ยปางมหาเศรษฐีชัมภล จะร่ำรวยอย่างมั่นคง อุดมสมบูรณ์ ยิมแย้มแจ่มใส

  2. ปางบู๊ ทรงเครื่องนักรบโบราณมีเสือประทับอยู่ด้วยคติมาจากความเชื่อที่เป็นยักษ์นั้นเอง มีทั้งพุทธมหายาน เต๋าก็มีการประยุกต์มาเช่นกัน เชื่อกันว่าผู้บูชาไฉ่ซิ้งเอี้ยปางบู๊จะเป็นผู้เก็บเงินอยู่ไม่ไหลออกง่ายๆ

  3. ปางบุ๋น เป็นรูปขุนนางจีนดังที่เห็นกันทั่วไป ซึ่งปางนี้กำเนิดภายหลังไม่กี่ร้อยปี คล้ายคลึงกับเทพเจ้าองค์อื่นๆ ของจีน เช่น ตี่จูเอี้ย แป๊ะกง ฯลฯ อาจจะมีคฑายู่อี่และถือก้อนเงินจีนโบราณ มีที่มาจากลัทธิเต๋าอย่างชัดเจน เชื่อกันว่าผู้บูชาไฉ่ซิ้งเอี้ยปางบุ๋น จะเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศในการทำการค้าขาย และทำมาหากิน หาเงินเก่ง

    เทพเจ้าแห่งโชคลาภ มีความเก่าแก่ยาวนานและมีประวัติความเป็นมาที่สากล ปรากฏในหลายประเทศแถบทวีปเอเชีย แต่ของลัทธิเต๋านั้นมากำเนิดขึ้นภายหลังในประเทศจีนซึ่งจะมีกึ่งตำนานกึ่งนิทานตามตำนานมหาเทพของจีน(ฮงสิงปั้ง) ที่เป็นบุคคลธรรมดาต่อมาภายหลังเมื่อเสียชีวิตจึงได้รับการยกเป็นเทพ ตัวอย่างเช่น เทพเจ้ากวนอู

    รูปลักษณะของไฉ่ซิ้งเอี้ยปางมหาเศรษฐีชัมภล

    มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากเทพเจ้าองค์อื่นอย่างเห้นได้ชัด คือ มีลักษณะอวบอ้วน พุงพลุ้ย ใบหน้าใหญ่ ล่ำ มีความจริงจังแต่แฝงไปด้วยความเมตตากรุณา ท่อนบนของท่านเปลือยเปล่า ประดับไปด้วยสร้อยสังวาล เพชรนิลจินดา กำไล ทั้งองค์เต็มไปด้วยอัญมณีล้ำค่าแสดงถึงความมั่งมีเงินทองทรัพย์สมบัติอย่างเหลือคณานับ บางที่จะประทับนั่งบนแท่นดอกบัวและห้อยพระบาทข้างหนึ่งเหยียบหอยสังข์ มือด้านหนึ่งถือแก้วมณี อีกด้านถือพังพอนไว้ และท่านจะบีบคอพังพอนให้พังพอนอ้าปากคายแก้วแหวนเงินทองออกมา อันเป็นเคล็ดลับโบราณที่กล่าวว่า ทรัพย์สมบัติทั้งมวลบนพื้นพิภพล้วนแล้วอยู่แต่ในผืนดิน ความอุดมสมบูรณ์ต่างๆ ก็มาจากดิน จากน้ำใต้ดินทั้งนั้น แก้วแหวนเงินทองของมีค่าล้วนแล้วเกิดจากพื้นปฐพีทั้งหมดทั้งสิ้น ผู้ที่มีหน้าที่เฝ้าทรัพย์เหล่านั้นก็คือ เจ้าแห่งเมืองบาดาล โบราณกล่าวว่า คือ งู ดังนั้นสัตว์ที่แก้เคล๊ดกับงูได้ก็คือพังพอนนั่นเอง โบราณจึงได้กำหนดรูปลักษณะของมหาเศรษฐีชัมภลไว้ตามที่ปรากฏในที่ต่างๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีพังพอนเป็นสำคัญ

    ตามพุทธสูตรกล่าวไว้ว่า “ขอเพียงแต่วาดภาพหรือแกะสลักรูปของมหาเศรษฐีชัมภล จะคิดสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้นสมดังปรารถนา เทวรูปมั่งคั่งองค์นี้ก็คือ เทพธนาของพระพุทธศาสนานิกายตันตระ (ในทิเบตคือนิกายลามะ) มีนามว่า “รัตนโกศ ” มีหน้าปกครองดูแลโภคทรัพย์ในแผ่นดินชื่อเดิมคือ “รัตนโกศ มหาพญายักษ์” ทรัพย์สินเงินทองจะไหลมาเทมา และจะรักษาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วอย่างมั่นคง”

    เทพเจ้าแห่งโชคลาภ (ไฉ่ซิ้งเอี้ย) ปางมหาเศรษฐีชัมภล สำหรับในประเทศไทยมักเรียกท่านว่า ท้าวกุเวร ท้าวชุมพล บางแห่งจะเรียกท่านว่า “เจ้าพ่อขุมทรัพย์” เศรษฐีมหาเศรษฐี หลายคนในประเทศไทยและต่างประเทศก็มีการบูชาท่านมานานแล้ว แม้แต่สำนักงานใหญ่ของธนาคารแห่งหนึ่งย่านราษฎร์บูรณะก็มีรูปหล่อของมหาเศรษฐีชัมภลนี้บูชา การบูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภปางนี้นั้น นอกจากให้คุณทางด้านโชคลาภ ทรัพย์สมบัติแล้ว ยังสามารถคุ้มครอง ป้องกันสิ่งอัปมงคลได้ทุกชนิด สามารถปัดเป่าพลังอำนาจที่ไม่ดีต่างๆ ออกไป ซึ่งคนโบราณค้นพบ และหยั่งรู้ในความหมาย จึงได้สร้างรูปเหมือนท่านไว้ทั่วทวีปเอเชียนานกว่าพันปี 

    คาถาบูชาขอพรเทพเจ้าแห่งโชคลาภ

    เคล็ดคาถานี้บูชาสำหรับท่านที่เกิดปีต่างๆ ทั้ง 12 นักษัตร อันเป็นหัวใจคาถาของทิเบตจารึก เป็นภาษาสันสกฤตมาแต่ครั้งโบราณ โดยให้ตั้งจิตให้สงบระลึกถึงความดี และบุญกุศลที่ได้ประกอบมา แล้วท่องคาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล อธิษฐานของพรจากท่าน

    ท่านที่เกิดปี ฉลู มะโรง มะแม จอ
    คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ “โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน สาวหะ”

    ท่านที่เกิดในปี ขาล เถาะ
    คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ “โอม อา ฮูโฮฮัม กษะสะ โอม ชัมภาลา ลาจาเลนไนเยน สวาหะ”

    ท่านที่เกิดในปี มะเส็ง มะเมีย
    คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ “โอม ชัมภาลา จาเลน ไนเยน ธะนัม เมธิ หะรี ทากินี ชัมภาลา สะมะภารา สาวหะ”

    ท่านที่เกิดในปี วอก ระกา
    คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ “โอม ปัทมะ โกรธะ อรยะ ชัมภาลา หฤทัย หู ผะฏะ ”

    ท่านที่เกิดในปี กุน ชวด
    คาถาหัวใจมหาเศรษฐีชัมภล คือ “โอม ชัมภะละ ชาเลนทะรา เย สวาหา โอม อินทะระ ฌิมขัม ภะมะริ สาวหา”